Ketosis มีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า Ketosis /Lipolysis. Lypolysis คือกระบวนการที่ร่างกายเผาผลาญไขมัน ส่วน Ketosis คือเมื่อเซลล์ขันถูกเผาผลาญหมดสิ้น มันจะแยกออกเป็น Glycerol และ Free Fatty Acid- ซึ่งแตกตัวเป็นสองส่วนเล็ก ๆ คือ Carbon Compound ซึ่งเรียกว่า Ketone Bodies การแตกตัวของคาร์บอนดังกล่าว จะเข้าสู่กระบวนการการเผาผลาญ (Metabolic Pool ) เพื่อใช้ไขมันเป็นพลังงาน ไม่ใช่น้ำตาล
ดังนั้น ระบบการเผาผลาญโดยใช้ไขมัน เพื่อเป็นการเพิ่ม Metabolism หรือเพิ่มการเผาผลาญไขมันนั้นจะทำให้น้ำหนักและไขมันส่วนเกินหายไปด้วย เนื่องจากเมื่อร่างกายไม่มีแป้งและน้ำตาล ร่างกายก็จะใช้พลังงานจากไขมันแทน นั่นคือการเปลี่ยนระบบการเผาผลาญของร่างกายจากการเผาผลาญน้ำตาลเพื่อใช้เป็นพลังงาน เป็นการใช้ไขมันเป็นพลังงานแทน และเมื่อร่างกายหันทมาใช้ไขมัน Insulin ก็จะไม่หลั่งออกมาเพื่อกักัน้ำตาลไว้ใช้ ดังนั้นร่างกายจะหันไปใช้พลังงานทดแทน คือไขมันส่วนเกินทั้งหลาย ผลที่ได้คือน้ำหนักตัวที่ลดลง และรบบการเผาผลาญเพิ่มขึ้น เมื่อร่างกายเกิดสภาพ Ketone ขี้น ร่างกายก็จะละลายไขมันไปด้วย ในขณะเดียวกัน นั่นหมายถึงน้ำหนักจะลดลง
สำหรับอาหารโปรตีน และไขมันนั้นเมื่อไม่มีกลุ่มอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต ร่างกายก็จะเผาผลาญหมดไป ดังนั้น พบว่าหากทำตามสูตรอย่างเคร่งครัด ก็จะไม่มีผลต่อระดับ Cholesterol ในร่างกาย อนึ่งไขมันมีกลูโคส น้อยกว่าโปรตีน ดังนั้นการบริโภคไขมันจึงทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดขึ้น
- ไข่ไก่ ไข่นกกระทา
- เนื้อสัตว์ทุกประเภท แกะ หมู ไก่ เนื้อ ปลา ปู กุ้ง หอย ปลาหมึก ไส้กรอก เบคอน แคบหมู ขาหมูทอด หมูหัน และ อื่น ๆ ไม่ว่าจะติดมัน หรือ ไม่ก็ตาม ย่าง นึ่ง ต้ม ทอด หรือปรุงด้วยอะไรก็ได้ ห้ามมีส่วนผสมของน้ำตาลเด็ดขาด
- Cheese Edam , Brie, Ricotta Cheddar, Swiss, Blue Cheese, Philadelphia Crème Cheese เป็นต้น
- น้ำมันทุกประเภท น้ำปลา น้ำส้มสายชู มะนาว และเครื่องปรุงอื่น ๆ ยกเว้นน้ำตาล หรือ เครื่องปรุงที่มีส่วนผสมของน้ำตาล
- ผักทานได้แต่ผักกาดแก้ว ผักสลัดใบเขียว และผักสีเขียวในปริมาณ 1 ถ้วย (เวลาตวงไม่อัดแน่นนะคะ) หรือ 170 กรัม หรือ 6oz.
- อาหารทุกชนิดห้ามใช้ที่เขียนไว้ว่า Low Fat เนื่องจากอาหารไขมันต่ำทุกชนิดมักจะมีส่วนผสมของแป้งอยู่โดยทั้งสิ้น
- Evaporated Milk นมข้นจืดไม่ดัดแปลง (คาร์เนชั่น) หรือ whip cream
- อาหารที่กล่าวนี้ สามารถทานได้ไม่จำกัดทั้งมื้อและ ปริมาณ เมื่อไรก็ได้ เท่าไรก็ได้
อาหารที่ต้องห้าม
- นมดังต่อไปนี้ whole milk , skim milk, low fat milk, UHT, Pasteurize, น้ำเต้าหู้ เนื่องจากนมทั้งหลายนี้มีคาร์โบไฮเดรทสูง
- กาแฟ ให้พยายามเลี่ยง แต่หากต้องทาน ให้ใช้แบบ caffeine free เนื่องจากคาเฟอินอาจทำให้กระบวนการทางเคมีไม่ได้ผล
- ผลไม้ทุกประเภท ไม่ว่าจะมีรสหวานหรือไม่ก็ตาม ล้วนมีน้ำตาลทั้งสิ้น
- ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปังทุกอย่าง ข้าวเหนียว มันฝรั่ง เพราะล้วนเป็นคาร์โบไฮเดรต
- ขนมหวาน Cake, Cookie, Snack, Chip
- น้ำตาล หรืออาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม รวมถึง Glucose, Fructose หรือ น้ำผึ้ง
- ผักบางอย่าง เช่น ข้าวโพดอ่อน มะเขือเทศ แครอท หรืออื่น ๆ ที่มีน้ำตาล หรือพืชผักที่ให้รสหวาน
- Sauce ที่มีรสหวาน หรือมีแป้งเป็นส่วนผสม เช่น น้ำจิ้มไก่ ซีอิ๊วหวาน ซอสมะเขือเทศ Gravy เป็นต้น
- Alcohols ทุกประเภท น้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำผลไม้ห้ามหมดเด็ดขาด
ตัวอย่างรายการอาหาร
เช้า ไข่ดาว ไข่คน cheddar cheese ,Omelet กับ เบคอน ไส้กรอก แฮม
กลางวัน ไก่ย่าง ขาหมูทอด สเต๊กเนื้อ ไข่เจียวหมูสับ ทอดมัน ( ทำจากเนื้อปลาล้วน ) ลาบ/ น้ำตก หมู หรือไก่
เย็น ปลาหมึกผัดไข่เค็ม หมูหัน ต้มยำกุ้ง ต้มข่าไก่
ของว่าง Philadelphia Crème Cheese ผสมกับน้ำตาลเทียม และมะนาว จนเป็นเนื้อเดียวกัน, แคบหมูกับน้ำพริกหนุ่ม
ข้อควรระวัง
- หากท่านตัดสินใจลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ท่านต้องทำติดต่อกันเป็นเวลา 14 วันติดต่อกัน เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสมดุล
- จะยกเลิกก่อนกำหนดหรือทำเพียงบางมื้อไม่ได้
- จะมีส่วนผสมของน้ำตาลหรือแป้งรวมทั้งคาร์โบไฮเดรต ในรูปแบบอื่นในมื้ออากรไม่ได้เลย ตลอด 14 วัน ยกตัวอย่างเช่น หากทานไก่ย่าง ก็ไม่ทานข้าวเหนียว หรือส้มตำ หากทานไข่ดาวหมูแฮม จะทานกับขนมปังไม่ได้ รวมทั้ง ลูกชิ้น ปูอัด
- หากน้ำหนักไม่ลดลงเลย แสดงว่าในบางมื้อท่านยังมีส่วนของน้ำตาลหรือกลุ่มอาหารคาร์โบไฮเดรต อยู่ ดังนั้น นอกจากจะลดน้ำหนักไม่ได้แล้ว เท่ากับท่านทำให้กระบวนการเผาผลาญรวน และร่างกายอาจจะใช้กลับไปใช้น้ำตาลในการเผาผลาญเหมือนเดิม แสดงว่า โปรตีน และ ไขมันจำนวนมากที่ท่านบริโภคเข้าไปก่อนหน้านี้ ไม่ได้ถูกใช้งาน ก็จะกลายเป็น Cholesterol ได้ในที่สุด
- อย่ากลัวการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากกระบวนการเผาผลาญไขมันไม่ทำให้เกิด Cholesterol ดั้งนั้น ท่านจึงไม่ต้องกังวลกับอาหารไขมันสูง แต่ให้ระวังอาหารที่มีน้ำตาลและแป้ง
- ภายใน 48 ชั่วโมง บางท่านอาจมีอาการวิงเวียน เนื่องจากร่างกายยังหลั่ง Insulin อยู่ แต่หลังจากนั้น อาการจะหายไป เนื่องจากร่างกายเข้าสู่ระบบ Ketosis คือการนำไขมันมาเป็นพลังงาน
- ควรตรวจระดับ Ketone ในปัสสาวะหลัง 48 ชั่วโมง โดยซื้อ Ketone Strip มาตรวจ หากพบปัสสาวะมีสีชมพู แปลว่าร่างกายได้เริ่มนำไขมันมาเผาผลาญแล้ว
- หากทำตามนี้อย่างเคร่งครัด ท่านสามาถลดน้ำหนักได้ 1-1.5 กก. เป็นอย่างต่ำ สัดส่วน รอบเอว ต้นขา หน้าท้องจะลดลง ( คนน้ำหนักมากจะมีโอกาสลดได้มากกว่าคนน้ำหนักปกติ )
- หากได้ออกกำลังกายด้วยจะลดได้เร็วมากขึ้น กล้ามเนื้อแข็งแรง
- ท่านสามาถทานวิตามินเสริมได้ เช่น Vitamin C 1000 Mg., B1-6-12, Chromium Picolinate เป็นต้น ร่วมด้วยก็ได้
- รับประทานอาหารแต่ละมื้อจนอิ่ม และอย่าทานหากไม่ได้รู้สึกหิว ถ้าหิวระหว่างมื้อก็ให้ทานประเภท ไส้กรอก แฮม Salami หรือ Assorted Cheese เป็นต้น อย่าปล่อยให้ท้องว่าง
- ควรหลีกเลี่ยง ไดเอทโค้ก หรือ ไดเอท เปปซี่ และน้ำตาลเทียมให้มาก ลูกอม ท๊อฟฟี่ ต้องงด
เมื่อครบ 14 วันแล้ว คุณจะไม่ค่อยรู้สึกหิว น้ำหนักลดลง หรือไม่ก็เสื้อผ้าจะหลวมอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเป็นที่พอใจแล้ว วิธีการที่จะรักษาน้ำหนักนี้ไว้ก็คือ เพิ่มผักสด โดยให้เพิ่ม อาทิตย์ละ 1 ถ้วยตวง (คือ จาก 1 ถ้วย หรือ 170 กรัม) มาเป็น 2 ถ้วย หมายความว่า 2 อาทิตย์แรก กินเนื้อและผัก 1 ถ้วย อาทิตย์ที่สาม ก็เพิ่มผักอีก 1 ถ้วย อาทิตย์ที่สี่ ก็อีก 1 ถ้วย
คราวนี้สิ่งที่คุณจะได้รับก็คือ โปรตีนจากเนื้อสัตว์ แป้งธรรมชาติและน้ำตาลธรรมชาติจากผัก โดยคราวนี้คุณก็ได้สารอาหารครบถ้วน
น้ำ และ การออกกำลังกาย ยังต้องทำต่อไปค่ะ
ถ้าทำครบ14วัน แล้วหลังจากนั้นเลิกทำจะyoyo effect มั๊ยครับ
ถูกใจถูกใจ
วิธีลดน้ำหนักง่ายๆ ไม่ต้องอดอาหาร
การลดหรืองดการบริโภคอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล (Ketogenic Diet)
http://drinkingalkalinewater.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%86-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3.html
ถูกใจถูกใจ
ถ้าจะรักษาหุ่นไว้ ก็ควรทำต่อไป โดยควบคุมอาหารให้มีปริมาณแป้งน้อยที่สุด
ประกอบกับการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญปริมาณไขมันไม่ให้สะสมมากจนเกินไป
ถูกใจLiked by 1 person